ชื่อสมุนไพร : กล้วยตีบ
ชื่ออื่นๆ : ตีบดำ, อีตีบ, กล้วยตีบน้อย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa X paradisiaca L. (ABB group) “Tib-Ta-Nod”
ชื่อวงศ์ : Musaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นกล้วยตีบ เป็นลูกผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี ลำต้นเทียมสูง 3-4 เมตร เส้นผ่าศูนย์ กลางประมาณ 20 ซม. สีเขียวไม่มีปื้นดำ กาบลำต้นด้านในสีเขียว ก้านใบสีเขียว ก้านสั้นกว่าก้านใบกล้วยตานีและมักไม่มีร่อง ขยายพันธุ์ด้วยหน่อ พบขึ้นตามป่าธรรมชาติทั่วไป พบมากทางภาคเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ใบกล้วยตีบ เป็นใบเดี่ยว ลักษณะคล้ายกล้วยตานี ท้องใบมีสีนวลขาว ใบสั้นและเล็กกว่าใบกล้วยตานี ที่สำคัญ “กล้วยตีบ” จะดูคล้ายต้นกล้วยใกล้จะตาย จะบำรุงอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น จะดูเหมือนกับต้นกล้วยโทรมๆ ตลอดเวลา
- ดอกกล้วยตีบ(ปลี) ก้านช่อดอก หรือเครือเป็นสีเขียว ไม่มี ขน ใบประดับปลีค่อนข้างป้อมสั้น ปลายมน ด้านบนเป็นสีแดงอมม่วง มีนวล ด้านล่างสีแดงเข้มสดใส เมื่อใบประดับกางและจะม้วนงอ
- ผลกล้วยตีบ เครือหนึ่ง จะมีหวีเพียง 1-2 หวีเท่านั้น แต่ละหวีจะมีผลประมาณ 7-8 ผล ไม่เกิน 10 ผล ผลสุกเป็นสีเหลือง เช่นเดียวกับผลกล้วยตานี แต่เล็กกว่า รสชาติฝาดปนเย็น ผลงอเล็กน้อย ปลายผลมีจุกใหญ่ ผลมีเหลี่ยม 5 เหลี่ยม กินผลสุกเป็นผลไม้ สำหรับกล้วยตีบเหมาะที่จะรับประทานผลสด เพราะเมื่อนำไปย่าง หรือต้มจะมีรสฝาด
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก, ใบ
สรรพคุณ กล้วยตีบ :
- ราก รสฝาดเย็น แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ท้องร่วง แก้บิด แก้โรคปากเปื่อย แก้ไข้ แก้ปวดตามข้อ และกล้ามเนื้อ แก้อุจจาระเป็นมูกเลือด แก้พิษภายนอก
- ใบ มวนยาสูบแก้ริดสีดวงจมูก ต้มอาบแก้ผื่นคันตามผิวหนัง น้ำที่คั้นจากใบหรือน้ำต้มใบใช้เป็นน้ำกระสายยา
[su_quote]กล้วยตีบจัดอยู่ใน “พิกัดตรีอมฤต” ประกอบด้วยตัวยาสามอย่าง ได้แก่ รากกล้วยตีบ รากกระดอม และรากมะกอก ในปริมาณเท่ากัน มีสรรพคุณ แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร[/su_quote]
[su_quote]การใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ระบุการใช้รากกล้วยตีบในตำรับ “ยาเหลืองปิดสมุทร” มีส่วนประกอบของรากกล้วยตีบร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปนและท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้[/su_quote]