จิกเขา

จิกเขา

ชื่อสมุนไพร : จิกเขา
ชื่ออื่น :
ตองหมอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Barringtonia pendula King.
ชื่อวงศ์ : BARRINGTONIACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

  • ต้นจิกเขา เป็นไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ สูงประมาณ 3-8 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มรีหรือแผ่กว้าง มีลำต้นเป็นปุ่มปม เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่องและเป็นสันแหลมตามยาว มีกิ่งน้อย กิ่งก้านมักคดงอ ปลายกิ่งมักลู่ลง ทรงพุ่มของแต่ละกิ่งมีลักษณะเป็นทรงกลม
  • ใบจิกเขา ใบเดี่ยว ใบออกเวียนสลับถี่ที่บริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบ เป็นรูปหอกหรือรูปไข่กลับขนาดใหญ่ โคนใบแหลม ปลายใบแหลมหรือมน ขอบใบเป็นจักถี่ ๆ ใบอ่อนเป็นสีน้ำตาลแดงเข้มและมีขน ใบยาวประมาณ 10-12เซนติเมตร  กว้างประมาณ 7-8  เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่เป็นมันสวย เมื่อเวลามีดอกจะทิ้งใบ เหลือเพียงแต่ใบอ่อนสีสีชมพูแกมเขียว
  • ดอกจิกเขา ดอกสีชมพู มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกเป็นช่อกระจายที่ปลายกิ่ง ดอกห้อยลงมาเป็นระย้า ยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร  กลีบเลี้ยงสีเขียว 4 กลีบ โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย  ติดทนอยู่จนเป็นผล กลีบดอกมีขนาดสั้น แยกเป็น 4 กลีบ ปลายกลีบม้วนออก กลีบดอกบิด ร่วงง่าย เมื่อบานเต็มที่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้อยู่เป็นฝอย ๆ สีชมพูหรือสีแดงส่วนปลายมีสีเเหลืองจำนวนมาก
  • ผลจิกเขา ลักษณะเป็นผลสด รูปขอบขนานหรือทรงกลม มีสันเป็นเหลี่ยม 4 สัน เรียงตามความยาวของผล ในผลมีเมล็ด อยู่ 1 เมล็ด  เมล็ด ลักษณะรูปไข่ มีเมล็ดเดียว

ส่วนที่ใช้เป็นยา  : ราก, เปลือกต้น, เนื้อไม้, ใบ, เมล็ด

สรรพคุณ จิกเขา :

  • ราก รสขม แก้หวัด ขับเสมหะ
  • ปลือกต้น รสร้อนเล็กน้อย แก้ปวดศีรษะ แก้เสมหะพิการ แก้ระดูขาว
  • เนื้อไม้ รสขื่น ขับระดูขาว
  • ใบ รสฝาดมัน แก้ท้องร่วง
  • เมล็ด รสร้อน แก้แน่นจุกเสียด
Scroll to top