ชื่อสมุนไพร : ชะเอมเถา
ชื่ออื่นๆ : ขมเหลือง (เชียงใหม่), ข้าวสาร, เครือเขาขม-หลวง, ป้างไม้ (ลำปาง), อ้อยสามสวน, อ้อยแสน-สวน (ภาคเหนือ), ชะเอมป่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Myriopteron extensum (Wight) K.Schum.
ชื่อวงศ์ : ASCLEPIADACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นชะเอมเถา ไม้เลื้อยเนื้ออ่อน เลื้อยได้ไกล 5-10 เมตร
- ใบชะเอมเถา เดี่ยว รูปรี รูปไข่แกมรูปรีหรือค่อนข้างกลม ขนาด 5-7 x 8-12 เซนติเมตร ปลายเรียวแหลมหรือยาวคล้ายหาง โคนมนหรือแหลม ขอบเรียบ เส้นแขนงใบเห็นเด่นชัดทั้งสองด้าน
- ดอกชะเอมเถา ออกเป็นช่อแยกแขนงหลวมๆ ตามซอกใบ ช่อดอกยาว 5-20 เซนติเมตร ดอกย่อยเล็ก กลีบรองดอกเล็กมาก กลีบดอก 5 กลีบ รูปใบหอก เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 0.8-1 เซนติเมตร ออกดอกเดือนกันยายนถึงตุลาคม
- ผลชะเอมเถา เป็นฝักคู่รูปกระสวยหรือรูปไข่เบี้ยว ขนาด 2-4 x 5-8 เซนติเมตร ฝักเรียงในระนาบเดียวกัน เปลือกผลลักษณะเป็นพูหลายพูขนานกันจากขั้วผลไปยังปลายผล เมื่อแก่จะแห้งแตกตามรอยตะเข็บเพียงด้านเดียว เมล็ดรูปไข่หรือรูปรี มีพู่ขน
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก เถา
สรรพคุณ ชะเอมเถา :
- ราก รักษาวัณโรคและแก้ไอ
- เถา รสหวาน ทำให้ชุ่มคอและแก้เจ็บคอ บำรุงผิวหนัง แก้คอแห้ง แก้ดีและโลหิตพิการ ขับเสมหะ แก้กระหายน้ำ ลดอาการไอ
- ใบ ยอดอ่อน ฝักอ่อน รับประทานสุกเป็นผัก มีรสหวานจัด
[su_quote cite=”The Description”]ยอดอ่อน ใบอ่อน ผลอ่อน ใช้ลวกจิ้มน้ำพริก มีรสหวาน หรือจะแกง ผัด ก็ได้ แม้แต่เถาก็มีรสหวานเช่นกัน[/su_quote]